ภูเก็ตต้อนรับเที่ยวบินแรกจากสาธารณรัฐประชาชนจีน

วันนี้ (18 มกราคม 2566) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต ร่วมกับ

การท่าอากาศยานภูเก็ต และสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต และสายการบินสปริงแอร์ไลน์

ร่วมต้อนรับนักท่องเที่ยวกลุ่มแรกจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ณ สนามบินนานาชาติภูเก็ต

นางสาวนันทาศิริ รณศิริ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท) สำนักงานภูเก็ต

กล่าวว่า เมื่อจีนประกาศให้คนจีนสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ตั้งแต่ 8 มกราคม 2566 มีสายการบิน

จากจีนต้องการเดินทางเข้ามายังจังหวัดภูเก็ตหลายสายการบิน ในขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการใน

การขอตารางเวลาการบิน สำหรับเที่ยวบินเที่ยวแรกที่เดินทางมาจังหวัดภูเก็ต ได้แก่ สายการบิน

Spring Airline ซึ่งมีผู้โดยสารเดินทางมาจำนวน 182 คน จากเมืองเชี่ยงไส้ ทั้งนี้ ในไตรมาสแรก เดือน

มกราคมถึงเดือนมีนาคม 2566 จากการประชุมหารือร่วมกันของภาครัฐภาคเอกชนในการเตรียมความ

พร้อมรับนักท่องเที่ยวจีนโดยมี นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็น

ประธาน คาดการณ์ว่า จะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาประมาณ 300,000 คน ซึ่งมีส่วนแบ่งทาง

การตลาดมายังจังหวัดภูเก็ต ประมาณร้อยละ 17(จากข้อมูลปี 2562 โดยในปี 2562 นักท่องเที่ยวจีน

ถือเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวไทยเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทย จำนวน

17,695,489 คน สำหรับจังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาเป็นอันดับหนึ่ง จำนวน

3,118,901 คน ถือเป็นตลาดกลุ่มเป้าหมายที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งจะสามารถช่วยภาคการท่องเที่ยวของไทย

ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากนักท่องเที่ยวนิยมท่องเที่ยวทางทะเล และการช้อปปิ้งสินค้าไทยเป็นอย่างมาก

จังหวัดภูเก็ตถือเป็นจุดหมายหนึ่งที่คนจีนนิยมเดินทางมาท่องเที่ยว และมีความพร้อมในด้าน

จำนวนห้องพัก ความหลากหลายของสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว ห้างสรรพสินค้า สปา ซึ่งตรง

กับความต้องการของนักท่องเที่ยวจีน อีกทั้งคนจีนมีความต้องการที่จะออกเดินทางมาต่างประเทศ

เนื่องจากข้อจำกัดการเดินทางในช่วงการแพร่ระบาดของโควิดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งในช่วงเวลา

ดังกล่าว สำนักงาน ททท. ทั้ง 5 สำนักงานในจีน ได้แก่ ปักกิ่ง เชี่ยงไฮ้ เฉิงตู คุนหมิง และกว่างโจว

ยังคงดำเนินการด้านการตลาดในการสร้างให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายที่เป็น Top of Mind ของ

นักท่องเที่ยวจีน โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มแรกที่เดินทางเข้ามา จะมีพฤติกรรมทางการท่องเที่ยวแตกต่าง

จากเดิม คือ จะเป็นการจัดการเดินทางด้วยตนเองเป็นส่วนใหญ่ และเป็นกลุ่มระดับกลางถึงระดับบน