ชุดว่ายน้ำพร้อม! กล้องถ่ายรูปพร้อม!ครีมกันแดดพร้อม! หนังสือเล่มโปรดพร้อม! แว่นกันแดด หมวกพร้อม! วู้ฮู้ววว ตื่นเต้นจังเลย รีบนอนๆ พรุ่งนี้มีนัดกับ “เกาะไม้ท่อน” จร้าาาา
6.30 น. ตื่นเช้ารีบ อาบน้ำแต่งตัว รองท้องด้วยแซนด์วิช 2 ชิ้น แล้วรีบบึ่งไปให้ทันเวลา 8.30 น. การเดินทางเริ่มต้นที่ท่าเรือ Dolphin Pier อ่าวมะขาม วันนี้เดินทางคนเดียว จะเป็นไงน้อ แต่เอาเถอะ ยังไงก็ไหวน่า วันลาหาไม่ได้ง่ายๆ จะให้รอเดอะแก๊งว่างพร้อมกัน คงไม่ได้เที่ยวกันพอดี ลองฉายเดี่ยวดูซักที ยังไงก็ห้ามโก๊ะขึ้นเรือผิดก็แล้วกัน
8.20 น. มาถึงท่าเรือก่อนเวลานิดหน่อย อันดับแรกไปเชคอินกับไกด์ของบริษัทนำเที่ยว เสร็จเรียบร้อย พอมีเวลานั่งรอชิลล์ๆ อืม ท่าเรือที่นี่ดีจัง ไม่แออัดพลุกพล่าน มีร้านกาแฟด้วย เข้าไปหาอะไรดื่มระหว่างรอขึ้นเรือดีกว่า
9.00 น. ไกด์เรียกขึ้นเรือตั้งแต่ก่อน 9 โมง นักท่องเที่ยวทยอยๆ ขึ้นเรือกันละ ตื่นเต้นๆ ทริปนี้ด้วยความที่เดินทางคนเดียว อารมณ์อยากเที่ยวแบบสวยๆ เก๋ๆ ตามสไตล์สาวชิคอย่างเรา ก็เลยเลือกทริปที่เดินทางด้วยเรือใบ catamaran เรือขนาดไม่ใหญ่มาก กรุ๊ปที่เดินทางไปพร้อมกันเลยเป็นกรุ๊ปเล็กๆ ไม่วุ่นวาย นักท่องเที่ยวขึ้นเรือเรียบร้อย ออกเดินทางกันละจ้า
เกาะไม้ท่อนห่างจากเกาะภูเก็ตประมาณ 9 กิโลเมตร ถ้านั่ง Speed boat ใช้เวลาแค่ 15 นาที แต่สำหรับเรือใบ Catamaran จะใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที เรื่อยๆ ชิลล์ๆ ใช้เวลาบนเรือแบบไม่เร่งรีบ ระหว่างทางจะมีการแวะให้ตกปลาและดำน้ำ ก่อนจะเข้าสู่เกาะไม้ท่อน
บนเรือเราเลือกที่นั่งด้านหน้าเรือรับลมทะเลแบบเต็มๆ วันนี้แดดแรงทีเดียว แต่เพื่อความเก๋ สวยสู้ตาย ถึงจะใช้เวลาเดินทางนานขึ้น แต่บนเรือก็ไม่น่าเบื่อ เพราะเวลาหมดไปกับการถ่ายรูปวนไปค่ะ! ก็เรือใบ Catamaran เวลากางใบเรือแล้วทั้งสวยทั้งเท่ ถ่ายรูปมุมนั้นมุมนี้แล้วก็มานั่งคุยกับไกด์ประจำทริปซึ่งอัธยาศัยดีมาก ชวนคุยแถมยังช่วยถ่ายรูปให้ตลอด การเดินทางคนเดียวของเราก็เลยไม่น่าเบื่อเลย
ใช้เวลาประมาณ 30 นาที เรือก็มาถึงจุดตกปลา ซึ่งไกด์จะเตรียมเบ็ดตกปลาพร้อมเหยื่อเอาไว้ให้ทุกคน เรือจะจอดให้เราตกปลาประมาณ 20 นาที หย่อนเบ็ดแล้วนั่งรอลุ้น มีไกด์และกัปตันเรือคอยแนะนำวิธีตกปลา ต้องคอยสังเกตถ้าปลากินเหยื่อเอ็นจะกระตุก ซักพักใหญ่ๆ ก็มีนักท่องเที่ยวตกปลาได้จริงๆ ส่วนเราน่ะเหรอ แห้วตามระเบียบ
จากจุดตกปลา เราออกเดินทางกันต่อไปยังจุดดำน้ำด้านหลังเกาะไม้ท่อน ใช้เวลาที่นี่อีกประมาณ 30 นาที ไกด์ปล่อยเราตามอัธยาศัย ใครจะดำน้ำ เล่นน้ำ ก็มีทั้งเสื้อชูชีพและหน้ากากดำน้ำให้พร้อม เราลงไปสำรวจใต้ท้องทะเลทักทายเซย์ไฮฝูงปลาเจ้าถิ่นพอเป็นพิธีแล้วก็ขึ้นมานอนอ่านหนังสือเล่นบนเรือ รอนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ กลับขึ้นเรือมา ก็มุ่งหน้าสู่ท่าเรือเกาะไม้ท่อนทางด้านหน้าเกาะ
ไม่กี่นาทีต่อมาความสวยงามของเกาะไม้ท่อนก็ค่อยๆ เผยโฉมให้เราเห็น ยิ่งเรือเข้าใกล้ฝั่ง น้ำทะเลก็ยิ่งใสขึ้นๆ มองเห็นทรายสีขาวภายใต้น้ำทะเลสีฟ้าใสราวกับกระจก สวยไม่ผิดจากที่เคยเห็นในรูปถ่ายเลยจริงๆ แบบนี้สินะที่เค้าเรียกว่าสวยสมคำร่ำลือ
เกาะไม้ท่อนเป็นเกาะส่วนตัวที่เปิดรับนักท่องเที่ยว สามารถเที่ยวได้ทั้งปีไม่มีการปิดเกาะตามฤดูกาล ด้วยที่ตั้งของเกาะที่ไม่ไกลจากภูเก็ตทำให้เดินทางมาสะดวกมากๆ ใช้เวลาไม่นาน เรือของเราจอดเทียบท่าเรือเกาะไม้ท่อนประมาณก่อนเที่ยง ตื่นเต้นๆๆ น้ำทะเลสีฟ้าสดกระทบแสงแดดระริกๆ สวยสุดๆ จนอยากจะกระโดดลงไปซะเดี๋ยวนี้ แต่ต้องอดใจไว้ก่อนเพราะท้องเริ่มร้องแล้วล่ะสิ
12.00 ขึ้นเกาะแล้ว ไกด์ชี้แจงรายละเอียดต่างๆ ไม่นาน ก็ได้เวลาอาหารเที่ยง ซึ่งมีบุฟเฟ่ต์อาหารและเครื่องดื่มหลากหลาย รวมทั้งขนมและผลไม้ ที่เด็ดคือบาร์บีคิวซีฟู้ด ทั้งหมึกและกุ้งเนื้อแน่นๆ มีให้เติมได้เรื่อยๆ นี่ลืมตัวจัดไปหลายไม้ อิ่มแปร้จนต้องแขม่วพุง
13.00 อิ่มมื้อเที่ยงแล้วนั่งให้อาหารย่อยสักนิด แล้วเดินสำรวจบริเวณใกล้ๆ เกาะไม้ท่อนมีจุดให้นั่งเล่นนอนเล่นหลายจุด ถ้าอยากได้ผิวสีแทนกลับไป ก็เลือกมุมอาบแดดหน้าหาดได้ตามใจ แต่ถ้าไม่อยากสู้แดดมากนัก ก็มีมุมใต้ต้นไม้ หรือจะลงเล่นในสระว่ายน้ำก็สามารถใช้บริการได้ และยังมีบริการนวดริมชายหาดอีกด้วย เราวางแผนไว้ว่า เดี๋ยวจะเดินขึ้นจุดชมวิวก่อน แล้วค่อยลงมานอนอาบแดด เล่นน้ำทะเล
13.30 จุดชมวิวบนเกาะไม้ท่อนต้องเดินขึ้นไปประมาณ 800 เมตร ใช้เวลาเดินไม่ถึง 10 นาที ทางชันพอประมาณ ทดสอบกำลังขาและกระตุ้นอัตราเต้นของหัวใจกันซักหน่อย จากจุดชมวิวมองออกไปเราจะเห็นได้ทั้ง 3 จังหวัด คือ ภูเก็ต พังงา และกระบี่ บนจุดชมวิวมีพระพุทธรูป และมีจุดถ่ายรูปเก๋ๆ ให้เก็บภาพ วิวข้างบนสวยมากทีเดียว เห็นท้องทะเลสีน้ำเงินเข้มสุดลูกตา มีเรือลอยลำอยู่ประปรายดูคล้ายภาพวาด นั่งเล่นถ่ายรูปพอหายเหนื่อย ก็เดินกลับลงมาหน้าหาด
14.00 ไกด์นัดเวลาขึ้นเรือกลับตอน 15.00 น. ยังมีเวลาอีก 1 ชั่วโมง เราเดินหามุมเหมาะๆ แถวชายหาดสำหรับการนั่งๆ นอนๆ ถ่ายรูป อาบแดด เล่นน้ำทะเล ถึงแดดจะแรงแค่ไหน แต่ด้วยความใสของน้ำทะเลกับผืนทรายขาวละเอียด มันเชื้อเชิญมากๆ ให้โดดลงไปดำผุดดำว่ายอย่างอิสระเสรี แถมใต้น้ำยังมีปลาตัวเล็กๆ ว่ายไปมา เห็นแล้วอยากเซลฟี่กับปลาจริงๆ เล้ยยย
ว่ายน้ำเล่นจนชุ่มปอดแล้ว ยังพอมีเวลาเหลือนิดหน่อย ก่อนขึ้นเรือเลยขอเก็บตกถ่ายรูปตามมุมต่างๆ ใกล้ๆ ท่าเรือ ทั้งชิงช้าใต้ต้นไม้ ศาลาเล็กๆ บนโขดหิน เดินถ่ายรูปเก็บความทรงจำมาเรื่อยๆ จนมารอขึ้นเรือที่ท่าเรือก็ยังถ่ายรูปได้จนหยดสุดท้าย เฮ้อ เวลาหนึ่งวันทำไมมันผ่านไปเร็วแบบนี้น้า ต้องกลับซะแล้ว
15.00 น. ขึ้นเรือกลับ เรายังคงเลือกนั่งด้านหน้าเรือ ไกด์แจ้งข่าวดีว่าสภาพอากาศแบบนี้เราอาจจะได้เจอฝูงโลมา! ว้าววว มีความหวัง เรือจึงมุ่งหน้าไปจุดที่มักจะพบฝูงโลมามาว่ายน้ำเล่นคลื่น ไกด์เล่าว่าแถบนี้มักจะพบโลมาเป็นฝูง ประมาณ 7-10 ตัว แต่ที่สุดแล้วคราวนี้เราก็ไม่เจอแก๊งโลมา เสียดายจัง
ขากลับแดดร่มขึ้น บนเรือเสิร์ฟผลไม้เย็นๆ ช่วยลดอาการเพลียแดดได้เป็นอย่างดี ระหว่างทางเราใช้เวลานอนอ่านหนังสือชิลล์ๆ แป๊บเดียวเรือก็แล่นถึงท่าเรือ Dolphin Pier อีกครั้ง การเดินทางฉายเดี่ยว วันเดียว เปรี้ยวที่เกาะไม้ท่อนกำลังจะจบลง T..T
16.00 น. โดยประมาณ กลับถึงภูเก็ตด้วยความรู้สึกดีๆ ไล่ดูรูปที่ถ่ายมาในกล้อง โอ้โห นี่ฉันถ่ายรูปมาเยอะขนาดนี้เลยเหรอ แชร์อวดเพื่อนๆ ให้อิจฉาเล่นดีกว่า การเที่ยวคนเดียวไม่ใช่เรื่องยาก แต่เป็นโอกาสให้เราได้อยู่กับตัวเอง สัมผัสกับสิ่งแวดล้อมแปลกใหม่ พูดแล้วก็แล้วอยากไปเที่ยวอีกง่า ทริปหน้าไปเที่ยวเกาะไหนดี กลายเป็น #ผู้หญิงติดเกาะ ซะแล้วเรา
————–
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
facebook: https://www.facebook.com/maitonislandphuket/
website: http://www.maitonprivateisland.com/th/
Tel: (+66) 085 835 3888