มังกรทะเล คืออีกฉายาของเกาะภูเก็ตที่ถูกเรียกขาน ด้วยรูปร่างของเกาะ ที่แลดูคล้ายมังกรอยู่กลางทะเล อีกทั้งชาวภูเก็ตส่วนหนึ่งก็เป็นคนไทยเชื้อสายจีน ความเชื่อเกี่ยวกับมังกรทะเลจึงเป็นสิ่งที่ผูกพันกับชาวภูเก็ตมาช้านาน การได้ล่องเรือมังกรเที่ยวชมความสวยงามของทะเลอันดามัน ก็เท่ากับได้สัมผัสกลิ่นอายวัฒนธรรมและความเป็นมาของเกาะภูเก็ตในอีกรูปแบบหนึ่ง เรากำลังพูดถึงการล่องเรือชมพระอาทิตย์ตก และอิ่มอร่อยไปกับอาหารมื้อพิเศษบนเรือสำราญสไตล์จีน ที่มีชื่อว่า เรือพิจิตรา
เราเดินทางมาถึงท่าเรืออ่าวฉลองตามเวลานัด คือก่อนห้าโมงเย็นโดยประมาณ จะมีพนักงานคอยต้อนรับเราอยู่ที่ท่าเรือ เพื่อจะนั่งเรือสปีดโบ๊ทไปขึ้นเรือพิจิตรา ใช้เวลาไม่นานประมาณ 5 นาที เราก็ได้เห็นเรือพิจิตราลอยลำอย่างสง่าอยู่กลางทะเล หัวเรือเป็นรูปมังกร ภายนอกเรือสีสันสดใส ตกแต่งสไตล์จีนแตกต่างจากเรืออื่นๆ โดยรอบ เมื่อขึ้นไปบนเรือ จึงได้เห็นรายละเอียดการตกแต่งอย่างชัดเจน เรือตกแต่งอย่างอลังการเหมือนยกตำหนักจีนมาไว้บนเรือ ไม้แกะสลักลวดลายต่างๆ เช่น มังกร หงส์ ดอกไม้ สิงโตจีน ใช้ตกแต่งทั้งหัวเสา ระเบียงข้างเรือ ขอบประตู หน้าต่าง หลังคาเรือก็เป็นหลังคาแบบจีนใช้กระเบื้องจีน ภายในเรือแบ่งเป็น 3 ชั้น ชั้นล่างเป็นห้องอาหาร ชั้นสองเป็นห้องคาราโอเกะ ห้องน้ำและห้องอาบน้ำ ส่วนชั้นบนจะเป็นห้องรับรองสำหรับกลุ่มที่ต้องการความเป็นส่วนตัว เราเดินสำรวจรอบๆ เรือ ก็เห็นว่ามุมสวยๆ ให้ถ่ายรูปก็เยอะ จุดนั่งเล่นชมวิวเจ๋งๆ ก็หลายจุด ตั้งแต่ชั้นบน หัวเรือ กลางเรือ จนถึงท้ายเรือ เมื่อเรือเริ่มออกจากชายฝั่งและล่องไปด้วยความเร็วต่ำ ก็เริ่มได้ที่ปักหลักชมวิว เราเลือกที่ชั้นสามด้านหน้าเรือ เพราะเป็นจุดที่มองเห็นวิวทะเลตรงหน้าแบบ 180 องศา บรรยากาศยามเย็นขณะที่เรือมังกรพิจิตรากำลังล่องออกไป เรือของนักท่องเที่ยวที่ออกไปเที่ยวตามเกาะต่างๆ บ้าง ออกไปดำน้ำบ้าง ก็กำลังเดินทางกลับเข้าฝั่งสวนทางกับเรา เราได้เห็นเรือกอจ๊าน หรือเรือท้ายเป็ด เรือประมงท้องถิ่นภูเก็ตแล่นออกไปหาปลา เรือยอชท์ เรือคาตามารันกางใบเรือสีขาวอยู่กลางทะเล เป็นภาพวิถีชีวิตของผู้คนบนผืนน้ำที่แตกต่างแต่สวยงาม
ทันทีที่เรือออกประมาณ 17.30 น. ทางห้องรับประทานอาหารที่ชั้น 1 ของเรือ ก็เริ่มให้บริการอาหารบุฟเฟ่ต์ ซึ่งมีทั้งอาหารนานาชาติ และอาหารไทย แต่เน้นอาหารไทยเป็นหลัก เช่น น้ำพริกกะปิ ห่อหมก ปอเปี๊ยะ ถุงทอง ยำ ผัดผัก สลัด และอีกหลายๆ อย่างให้เลือกตักได้ตามใจ ส่วนที่ยกมาปรุงกันสดๆ บนเรือก็มีทั้งส้มตำ ต้มยำกุ้งรสจัดจ้าน รวมทั้งขนมครก และผลไม้ สิ่งหนึ่งที่ห้ามพลาดบนเรือก็คือ บาร์บีคิว และอาหารทะเลปิ้งย่างสดๆ ทั้ง กุ้ง หอย ปู ปลา ที่จะปิ้งกันด้านนอกห้องอาหาร ทุกเมนูทั้งอาหาร ขนม ผลไม้ เครื่องดื่มทั้งหมดสามารถรับประทานได้ตลอดเวลาที่เรือล่องออกไป ไม่จำกัดปริมาณ ไม่จำกัดเวลา จะชมวิวให้หนำใจก่อนแล้วค่อยมารับประทาน รับประทานให้อิ่มแล้วค่อยไปนั่งชิลล์รับลมเย็นๆ หรือจะตักอาหารไปนั่งรับประทานไปด้วยชมวิวทะเลสวยๆ ไปด้วยก็ได้ทั้งนั้น ระหว่างรับประทานอาหารยังมีการแสดงศิลปวัฒนธรรมให้ชมบนเวทีอีกด้วย
และแล้วก็ถึงเวลาที่เรารอคอยสำหรับการล่องเรือพิจิตราในครั้งนี้ ระหว่างเรือแล่นผ่านอ่าวฉลองออกไป มุ่งหน้าสู่แหลมพรหมเทพ พระอาทิตย์ก็ค่อยๆ คล้อยตัวลงต่ำ แล้วเรือก็แล่นมาถึงตรงกลางระหว่างเกาะแก้วพิสดารกับแหลมพรหมเทพ มองไปทางซ้ายมือจะเห็นองค์พระพุทธรูปของสำนักสงฆ์บนเกาะแก้วพิสดารประดิษฐานอยู่เห็นชัดเจน มองไปทางขวาจะได้เห็นแหลมพรหมเทพซึ่งมีผู้คนมาเฝ้ารอดูพระอาทิตย์ตกเป็นมุมมองที่แปลกใหม่ ไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่เราจะได้เห็นแหลมพรหมเทพจากมุมนี้ ถ้าไม่ได้ล่องมากับเรือพิจิตรา น่าเสียดายที่วันนั้นมีเมฆค่อนข้างมาก ทำให้เราอดเห็นพระอาทิตย์ลับขอบน้ำ แต่อย่างไรก็ตามภาพที่เห็นตรงหน้าก็ยังเป็นเมจิกโมเม้นต์ที่สวยงามน่าประทับใจอยู่ดี
เมื่อผ่านแหลมพรหมเทพกับเกาะแก้วพิสดารแล้ว สักครู่เรือจึงค่อยๆ กลับตัวและมุ่งหน้ากลับเข้าฝั่งในเส้นทางเดิม ท้องฟ้าเริ่มมืดลง ไฟที่ประดับตกแต่งตามเรือจึงถูกเปิดขึ้น เรือพิจิตราดูสวยระยิบระยับ ให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากบรรยากาศเมื่อตอนเย็น บรรยากาศโดยรอบมืดลงเห็นแสงไฟตามบ้านเรือนร้านอาหารที่อยู่ริมฝั่ง ช่วงเวลานี้ถ้าเราอยากจะทำกิจกรรมอย่างอื่นนอกจากนั่งตากลมชมวิวทะเล ที่ชั้นสองของเรือก็มีห้องคาราโอเกะให้ไปนั่งร้องเพลงหรือฟังเพลงได้ด้วย เวลาประมาณ 19.45 เรือจึงเข้าสู่อ่าวฉลองอีกครั้ง มีเรือสปีดโบ๊ทมารับเรากลับสู่ท่าเรืออ่าวฉลองราวๆ 20.00 น. พอดี
มีโอกาสได้คุยกับผู้บริหารของเรือพิจิตรา จึงได้ทราบว่า เรือลำนี้ประกอบและตกแต่งที่ประเทศจีน ผู้บริหารเห็นถึงความสวยงามและความแตกต่างจากเรือสำราญทั่วๆ ไป จริงนำมาให้บริการเรือนำเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งมีวัฒนธรรมความเชื่อของชาวจีนผสมผสานอยู่ในวิถีชีวิต นอกจากโปรแกรมเรือนำเที่ยวออกชมพระอาทิตย์ตกพร้อมรับประทานอาหารค่ำแล้ว ยังมีโปรแกรมเดย์ทริป นำเที่ยวไปตามเกาะต่างๆ ใกล้ๆ เกาะภูเก็ต และเรือพิจิตรายังสามารถให้บริการจัดงานเลี้ยงรับรอง งานสัมมนา หรือการจัดพิธีหมั้น พิธียกน้ำชา หรืองานแต่งงานแบบจีนบนเรืออีกด้วย
เรือพิจิตราเพิ่งเปิดให้บริการไม่นาน ถือว่ายังใหม่มากสำหรับเกาะภูเก็ต จึงอยากเชิญชวนทั้งชาวภูเก็ตและนักท่องเที่ยว ให้มาลองสัมผัสบรรยากาศที่แสนพิเศษบนเรือ โดยสามารถติดต่อผ่านตัวแทนจำหน่ายทัวร์หรือติดต่อโดยตรงมายัง บริษัท อันดามันฟีลฟรี จำกัด การล่องเรือมังกร ชมความงามของทะเลอันดามันและวิวซันเซท นับเป็นการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมกับความสวยงามของธรรมชาติแห่งเกาะภูเก็ตได้อย่างลงตัวและน่าประทับใจ
สำรองที่นั่งเรือพิจิตรา ติดต่อ บริษัท อันดามันฟีลฟรี จำกัด โทร. 076 510 427, 094 584 8585 www.andamanfeelfree.com