เชื่อว่าการตัดสินใจมาเที่ยวภูเก็ตของหลายๆ คน คือการให้รางวัลกับชีวิต หลังจากเหน็ดเหนื่อยกับภาระหน้าที่ในชีวิตประจำวันกันมาพอสมควร ช่วงเวลาที่เป็นเหมือนรางวัลพิเศษให้กับตัวเองหรือคนที่คุณรัก จึงควรจะเป็นเวลาแห่งการพักผ่อนและปลดวางความเหนื่อยล้าทั้งหมดอย่างแท้จริง การทำสปาก็เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่จะช่วยผ่อนคลายและเติมพลังให้คุณพร้อมที่จะกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองด้วยความสดชื่น “ประสบการณ์สปาที่น่าประทับใจในภูเก็ต” จึงถือเป็นรางวัลชีวิตที่คุณไม่ควรพลาด
บันยันทรีสปา ภูเก็ต (Banyan Tree Spa Phuket)
ด้วยชื่อเสียงของบันยันทรีสปาที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสปาที่มีมาตรฐานเป็นที่รู้จักทั่วโลก การันตีด้วยรางวัลมากมายจากหลายสถาบัน และยังเป็นสปาที่มีสปาอคาเดมี สร้างทั้งบุคลากร องค์ความรู้ และผลิตภัณฑ์ที่เป็นอัตลักษณ์ของบันยันทรีสปา เรายอมรับว่าเข้ามาที่บันยันทรีสปา ภูเก็ต ด้วยความคาดหวังในระดับที่ค่อนข้างสูง และไม่คิดเลยว่าสิ่งที่เราได้รับ จะเป็นความรู้สึกสุดพิเศษที่ ‘เหนือความคาดหวัง’ ด้วยการบริการแบบมืออาชีพ นับตั้งแต่การต้อนรับ การสอบถามความต้องการและตรวจสอบข้อมูลสุขภาพก่อนทำสปา บรรยากาศที่ดูร่มรื่นรายล้อมไปด้วยต้นไม้ช่วยปรับจิตใจของเราให้สงบลงระหว่างทางเดินไปสู่สปาวิลล่าที่มีความเป็นส่วนตัวและมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ที่บันยันทรีสปา ภูเก็ต มีบริการที่เพียบพร้อมทั้งการบำบัดรักษา การบำรุงดูแล บริการเพื่อความงาม รวมทั้งคลาสออกกำลังกายต่างๆ เพื่อฟื้นฟูทั้งร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณของเราอย่างสมดุล แพ็กเกจสปายอดนิยมซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของบันยันทรีสปา ภูเก็ต คือ Master Therapist Experience เป็นแพ็กเกจที่จะให้บริการโดยเธอราพิสต์ผู้มีความรู้ในศาสตร์การบำบัดแนวทางต่างๆ อย่างรอบด้าน จะเป็นผู้วิเคราะห์ปัญหาสุขภาพของเราแล้วเลือกแนวทางการบำบัดที่เหมาะสมกับอาการนั้นๆ ซึ่งอาจจะเป็นการนวด การประคบสมุนไพร หรือการใช้หินร้อน คุณจะได้สัมผัสทุกศาสตร์แห่งการบำบัด ตั้งแต่การสูดดมกลิ่นน้ำมันหอมระเหยก่อนเริ่มการนวด เพื่อเปิดประสาทสัมผัสให้พร้อมต่อการผ่อนคลาย การนวดตัวด้วยสัมผัส จังหวะ และน้ำหนักมือที่พอดีของเธอราพิสต์ สลับกับลูกประคบ และหินร้อน รวมทั้งการนวดหน้าด้วยน้ำมันสกัดบริสุทธิ์ไร้กลิ่น ค่อยๆ ผ่อนและคลายความเมื่อยล้าทั่วทั้งร่างกายออกไปจนหมดสิ้น ก่อนเธอราพิสต์จะสั่นกระดิ่งเบาๆ เป็นการปลุกเราให้ตื่นขึ้นจากความรู้สึกนิ่งสงบตลอดเวลากว่า 1 ชั่วโมง จบด้วยการสตีมเพื่อให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น และปิดท้ายด้วยชาสมุนไพรและสลัดผลไม้เย็นๆ เสร็จสิ้นทุกขั้นตอนของการบริการแล้ว เราได้เข้าใจถ่องแท้เลยว่าความหมายของสปาแบบบันยันทรีคืออะไร และทำไมสปาแบรนด์นี้จึงมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก
สุโขเวลเนสแอนด์สปารีสอร์ทภูเก็ต (Sukko Wellness & Spa Resort Phuket)
ในเกาะภูเก็ตคงไม่มีที่ไหนนำเสนอศาสตร์แห่งสปาไทยได้ชัดเจนและโดดเด่นเท่ากับที่นี่ สุโขเวลเนสแอนด์สปารีสอร์ทภูเก็ต หรือ สุโขสปา ด้วยความสนใจส่วนตัวของแพทย์แผนปัจจุบันและแพทย์แผนไทยผู้ร่วมก่อตั้งสุโขสปา จึงได้ศึกษาค้นคว้าอย่างลงลึกไปถึงต้นกำเนิดของศาสตร์แห่งการบำบัดรักษาสุขภาพหลายๆ แขนง และนำมาต่อยอดเป็นวิถีแห่งการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมในแบบฉบับของสุโขสปา โดยมีองค์ความรู้จากภูมิปัญญาไทยเป็นพื้นฐานสำคัญทั้งการแพทย์แผนไทย การนวดไทย การใช้สมุนไพรไทย การบริการแบบไทย และการตกแต่งสถานที่ด้วยศิลปไทย ทุกองค์ประกอบผสมผสานกันอย่างลงตัวภายในบรรยากาศที่ร่มเย็น แพ็กเกจสปาที่สุโขสปามีให้เลือกอย่างหลากหลาย คุณสามารถเลือกได้ว่าอยากจะผ่อนคลายร่างกายส่วนไหน โดยผลิตภัณฑ์ชนิดใด ในระยะเวลาเท่าไหร่ ตามแต่คุณต้องการแต่หากคุณคือสปาเลิฟเวอร์ตัวจริงแนะนำว่าให้ใช้เวลาพักผ่อนอย่างเต็มที่กับแพ็กเกจสปา3 ชั่วโมง ที่บุณฑริกไพรเวทสปา ซึ่งเป็นสปาวิลล่าที่มีความเป็นส่วนตัว ภายในเวลา 3 ชั่วโมงเธอราพิสต์จะคอยให้คำแนะนำและดูแลในทุกขั้นตอน เริ่มตั้งแต่ล้างเท้าและขัดเท้า จากนั้นเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อมาอาบน้ำและเข้าห้องสตีมอบไอน้ำเพื่อเปิดรูขุมขนให้พร้อมสำหรับการขัดผิวและพอกด้วยสครับแบบไทย หลังจากล้างออกแล้วเธอราพิสต์จะให้บริการนวดไทยเพื่อผ่อนคลายทั้งขาแขนหลังไหล่ไล่ไปถึงศีรษะ จากนั้นจะเป็นบริการทรีทเมนท์ใบหน้าซึ่งจะใช้สมุนไพรไทยที่มีสรรพคุณเสริมความงามต่างๆ เช่นกวาวเครือที่มีคุณสมบัติยกกระชับหรือว่านหางจระเข้ที่ให้ความชุ่มชื่นขัดเบาๆ และพอกทิ้งไว้ก่อนจะนวดด้วยน้ำมันหอมระเหยทั่วใบหน้าแต่ละขั้นตอนเธอราพิสต์ให้บริการอย่างประณีตทำให้รู้สึกผ่อนคลายจนอาจจะเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว เวลา 3 ชั่วโมงผ่านไปรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ หลังเสร็จสิ้นทุกขั้นตอนเธอราพิสต์จะเสิร์ฟชาสมุนไพรร้อนๆ กับผลไม้แช่เย็นและส่งเรากลับด้วยรอยยิ้ม อย่างที่บอกว่าสุโขสปาเน้นการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ที่นี่จึงไม่ได้มีบริการสปาเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีบริการฟิตเนส สระว่ายน้ำ คลาสโยคะ และห้องอาหารที่ให้บริการอาหารเพื่อสุขภาพเป็นสถานที่ที่คุณจะได้มาฟื้นฟูทั้งร่างกายและจิตใจไปพร้อมๆ กัน
โคคูน สปา, เดอะ ซเลท ภูเก็ต (Coqoon Spa, The Slate Phuket)
‘ธรรมชาติ’ น่าจะเป็นคำที่ให้นิยามแก่ โคคูนสปา ได้เป็นอย่างดี การมาสู่ที่นี่ จึงเหมือนเป็นการกลับคืนสู่ธรรมชาติ เพื่อการบำบัดและผ่อนคลายด้วยวิถีแห่งธรรมชาติ โคคูนสปาดีไซน์ตัวอาคารทั้งส่วนล็อบบี้ต้อนรับ และห้องทรีทเม้นท์ทั้งหมดให้มีรูปทรงและวัสดุที่กลมกลืนกับธรรมชาติ โดยเฉพาะห้องทรีทเม้นท์ที่เป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่ ‘The Nest’ ซึ่งมีรูปทรงฟรีฟอร์มคล้ายรังไหมขนาดใหญ่ เมื่อรายล้อมด้วยพรรณไม้เมืองร้อนโดยรอบ ยิ่งทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางการโอบอุ้มของธรรมชาติ คล้ายหนอนที่ฟักตัวอย่างปลอดภัยอยู่ในรังไหม แม้ภายนอกจะดูไม่ปรุงแต่ง แต่ภายในซึ่งเป็นห้องทรีทเมนท์ตกแต่งอย่างหรูหรา มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่เพียงการตกแต่งและบรรยากาศเท่านั้นที่เน้นความเป็นธรรมชาติ แต่บริการต่างๆ ของที่นี่ก็เน้นความเป็นธรรมชาติเช่นกัน ทั้งผลิตภัณฑ์ที่ใช้ และศาสตร์ต่างๆ ในการบำบัด ซิกเนเจอร์ทรีทเม้นท์ของที่นี่ที่อยากแนะนำคือ Coqoon Rebirth Massage ซึ่งเป็นการนวดผ่อนคลายด้วยน้ำมันหอมระเหยโดยเธอราพิสต์ที่มีความเชี่ยวชาญ ทันทีที่ฝ่ามืออุ่นๆ ของเธอราพิสต์สัมผัสเบาๆ บนร่างกายเรา เหมือนมีพลังบางอย่างที่ส่งผ่านมา ไออุ่นจากฝ่ามือเคลื่อนที่ไปตามเรือนร่าง ลงน้ำหนักเค้นคลึงไปตามกล้ามเนื้อด้วยจังหวะที่พอดี นี่คือความหมายของคำว่าผ่อนคลายที่แท้จริง ด้วยสไตล์การนวดซึ่งเป็นแบบฉบับของโคคูนสปา ทำให้เรารู้สึกสดชื่นคล้ายเกิดใหม่อีกครั้งสมกับชื่อแพ็กเกจ ที่นี่จึงเป็นดีไซน์สปาอีกแห่งหนึ่งที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
www.theslatephuket.com/experiences/coqoon-spa/
อมาธารา เวลเนส รีสอร์ท (Amatara Wellness Resort)
ทันทีที่ก้าวเท้าเข้าสู่อมาธารา เวลเนส รีสอร์ท ภาพทิวทัศน์ของแหลมพันวาที่อยู่เบื้องหน้า ทำให้เราต้องหยุดชะงักไปชั่วครู่ ก่อนจะสูดหายใจลึกๆ เพื่อรับความสดชื่นของลมทะเล นี่คือการต้อนรับจากธรรมชาติก่อนที่เราจะเดินต่อไปสู่สปาของอมาธาราซึ่งตั้งตระหง่านอยู่บนเนิน อมาธารา เวลเนส รีสอร์ท เป็นรีสอร์ทที่เน้นการพักผ่อนเชิงสุขภาพ ที่นี่มีกิจกรรมเพื่อการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ทั้งการทำสปาทรีทเม้นท์ การล้างพิษ การออกกำลังกาย การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ เพื่อปรับสมดุลให้แก่ร่างกายทั้งภายในและภายนอก ด้วยบรรยากาศและทิวทัศน์ที่สวยงาม ห้องทำสปาของที่นี่จึงมองเห็นวิวทะเลเกือบทุกห้อง สปาของอมาธาราเป็นอีกที่หนึ่งที่มีความหลากหลายของศาสตร์ที่นำมาใช้ในการบำบัด ที่นี่เป็นที่เดียวในประเทศไทยที่มีบริการทรีทเม้นท์ที่มีชื่อว่า ไทยฮัมมัม ซึ่งเป็นการนำศาสตร์การบำบัดของตุรกีมาผสมผสานกับการบำบัดแบบไทย ขั้นตอนเริ่มต้นด้วยการเข้าห้องซาวน่าเพื่อให้ความร้อนเปิดรูขุมขนขับสารพิษออกมากับเหงื่อ จากนั้นจะเป็นการเดินผ่านสายน้ำเย็นรอบทิศทางเพื่อลดอุณหภูมิของร่างกาย แล้วเข้าสู่ห้องสตีมอบไอน้ำที่มีกลิ่นสมุนไพรไทยช่วยให้รู้สึกสดชื่น จากนั้นจะเป็นขั้นตอนในห้องฮัมมัม ซึ่งจะเป็นการอาบน้ำโดยนอนบนแผ่นหินร้อน และพอกตัวด้วยแบล็กโซพซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์จากตุรกีช่วยให้ขี้ไคลพองตัว เข้าห้องสตีมอีกครั้ง แล้วจึงออกมาล้างตัวที่ห้องฮัมมัม ขั้นตอนนี้เธอราพิสต์จะใช้ถุงมือขัดไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกายเรา เพื่อให้ขี้ไคลหรือสารพิษต่างๆ ที่ถูกขับออกมาหลุดออกเผยผิวที่นุ่มลื่น และเธอราพิสต์จะสระผมและหมักผมให้ด้วยสมุนไพรที่มีกลิ่นหอม ตามด้วยขั้นตอนการพอกน้ำแข็งทั่วร่างกายเพื่อกระชับผิว เสร็จจากขั้นตอนการขัดผิดแล้วจะเป็นการพอกตัวในห้องสตีมอีกครั้งด้วยโคลนจากโมร็อคโคซึ่งเต็มไปด้วยแร่ธาตุและมีคุณสมบัติดูดซับสารพิษได้ดี มีลักษณะเนื้อละเอียดพอกได้ทั้งหน้าและตัว สักครู่จึงล้างออก และปิดท้ายด้วยเข้าไปนั่งพักในห้องที่จำลองเป็นถ้ำเกลือหิมาลัย เพื่อสูดไอเกลือบริสุทธิ์ซึ่งจะช่วยล้างพิษในปอด ขั้นตอนทั้งหมดนี้ใช้เวลาประมาณ 90 นาที ก่อนกลับ เธอราพิสต์เสิร์ฟเราด้วยเครื่องดื่มชาสมุนไพรร้อน รับประทานกับเมี่ยงคำผลไม้อบแห้งรสชาติดี ศาสตร์แห่งการอาบน้ำแบบตุรกีผสมผสานกับวิธีบำบัดแบบไทยนี้ช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายและสบายตัวอย่างไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว
เดอะ สปา บาย ภารีสา (The Spa by Paresa)
ภารีสา แปลว่า สรวงสวรรค์ หากที่ๆ เราสามารถมองเห็นเพียงแผ่นฟ้าจรดผืนน้ำแห่งนี้ จะถูกเรียกว่าสรวงสวรรค์ก็คงไม่ผิดนัก และยิ่งถ้าคุณได้มาใช้เวลาปรนเปรอตัวเองด้วยทรีทเม้นท์ดีๆ ที่นี่ ความหมายของคำว่าภารีสาก็จะยิ่งชัดเจนยิ่งขึ้น สปาของภารีสาตั้งอยู่บนหน้าผาอ่าวนาคาเล ซึ่งมีความเป็นส่วนตัว ที่นี่จึงเหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างแท้จริง สปาของภารีสาไม่ได้มีจุดเด่นเพียงแค่วิวสวยที่สุดแบบหาที่อื่นไม่ได้เท่านั้น แต่บริการต่างๆ ก็มีความหลากหลายและแปลกใหม่โดยใช้ผลิตภัณฑ์ออแกนิกทั้งหมด สำหรับแพ็กเกจที่แนะนำว่าไม่ควรพลาดคือ Dark Chocolate Champagne Body Wrap ซึ่งเป็นทรีทเม้นท์ที่เหมาะกับคนรักช็อกโกแลตเป็นที่สุด เธอราพิสต์จะเริ่มต้นดูแลเราตั้งแต่การล้างเท้าและขัดเท้า ก่อนจะขึ้นไปนอนบนเตียงนวดเพื่อให้เธอราพิสต์ลูบไล้ดาร์คช็อกโกแลตอุ่นๆ ผสมเนื้อสตรอว์เบอรี่ไปทั่วร่างกาย กลิ่นหอมของช็อคโกแลต ที่อบอวล กับความร้อนและน้ำหนักมือของเธอราพิสต์ที่ลูบไล้ไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายได้อย่างไม่น่าเชื่อ หลังจากพอกช็อกโกแลตและสตรอว์เบอรี่จนทั่วแล้ว เธอราพิสต์จะพ่นสเปรย์เบาๆ ด้วยแชมเปญก่อนจะห่อตัวด้วยฟิล์มใส เพื่อให้เกิดความร้อนช่วยให้ไขมันช็อคโกแลตซึมเข้าสู่ผิวเราได้ดียิ่งขึ้น พอกช็อกโกแลตทิ้งไว้ประมาณ 30 – 45 นาที ก็สามารถล้างออกได้ ทิ้งไว้เพียงความนุ่มลื่น และกลิ่นช็อคโกแลตที่อบอวลไปทั่วตัว ปิดท้ายการทำทรีทเม้นท์ด้วยการจิบชาสมุนไพรกับสับปะรดเย็นๆ รสหวานอมเปรี้ยว ทอดตามองไปยังท้องฟ้าและทะเลสีฟ้าใส ช่วยให้รู้สึกสงบและมีพลัง เธอราพิสต์แนะนำว่า หากมาทำสปาในช่วงเย็น จะได้ชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยเกินบรรยาย นี่คงเป็นความหมายของคำว่า ภารีสา คือ สรวงสวรรค์ที่เราสามารถไปเยือนได้ด้วยตัวเอง
www.paresaresorts.com/facilities/spa.html