อ๊ามบางเหนียวต้าวโบเก๊ง (บางเหนียว)
ภูเก็ต
พิธีโก้ยโห้ย (พิธีลุยไฟ)
10 ตุลาคม 2567 - 20:00 น
พิธีโก้ยห่าน (พิธีสะเดาะเคราะห์)
11 ตุลาคม 2567 - 16:00 น
พิธีอิ้วเก้ง (พิธีแห่พระ)
8 ตุลาคม 2567 - 6:00 น
ภูเก็ต
10 ตุลาคม 2567 - 20:00 น
11 ตุลาคม 2567 - 16:00 น
8 ตุลาคม 2567 - 6:00 น
ความเป็นมา :
อ๊ามบางเหนียว หรือ ศาลเจ้าต่าวบู้เก๊ง หรือ มูลนิธิเทพราศี เป็นศาลเจ้า เก่าแก่ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2447 ชาวบ้านเรียกว่า ศาลเจ้าต่าวโบ้เก๊ง หรือฉ้ายตึ๋ง เป็นที่ทราบกันว่า มีคณะงิ้วจีน คณะกังฉ๊ายฮี่ เดินทางมาจากเมืองจีน มาแสดงที่ตรอกเม่าเก้า (ซอยรมณีย์ปัจจุบัน) ขณะนั้นมีศาลเจ้า อยู่แห่งหนึ่ง จึงได้นำพระเตี๋ยนฮู้หง่วนโส่ย (เหล่าเอี๋ย) มาบำเพ็ญกุศล และเริ่มประเพณี ถือศีลกินผักเป็นประจำจนชาวบ้าน เกิดความเลื่อมใส และเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก
ศาลเจ้าบางเหนียวเป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยปี พ.ศ. 2447 และมีชื่อเรียกหลายชื่อด้วยกัน เช่น ศาลเจ้าต่าวบู้เก๊ง หรืออ๊ามบู๊ตึ๊ง (คำว่า “อ๊าม” เป็นคำที่ชาวภูเก็ตใช้เรียกแทนคำว่าศาลเจ้า) หรืออาจรู้จักกันในฐานะมูลนิธิเทพราศี หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าศาลเจ้าต่าวโบ้เก๊ง อย่างไรก็ตาม ความเป็นมาของศาลเจ้าบางเหนียวนั้นก็ยังคงน่าสนใจ และเป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่ชาวภูเก็ตให้ความสำคัญอยู่เสมอ ศาลเจ้าบางเหนียวนับเป็นศาลเจ้าที่มีความสวยงามแห่งหนึ่ง โดยเริ่มตั้งแต่ประตูทางเข้าศาลเจ้าจะเป็นซุ้มประตูรูปมังกรในศิลปะแนวจีน เมื่อมาถึงทางเข้าด้านหน้าจะพบรูปปั้นสิงโตสองตัวประทับอยู่ และภายในศาลเจ้านั้นสวยงามด้วยรูปวาดด้วยสีน้ำรูปสัตว์นำโชคของจีน และเรื่องราววรรณกรรมของจีนที่ปรากฏอยู่บนผนังรอบ ๆ เมื่อผนวกกับเสาทุกต้นอันเป็นประติมากรรม ผสมผสานกับรูปปั้นมังกรพันรอบเสาแล้ว ยิ่งทำให้ศาลเจ้าแห่งนี้แลดูวิจิตรพิสดารมากขึ้น ตำนานศาลเจ้า ครั้งหนึ่งได้มีคณะงิ้วจากเมืองจีนชื่อ “คณะกังฉ๊ายอี่” เดินทางมาจากเมืองจีนเพื่อมาทำการแสดงงิ้วที่ตรอกเม่าเก้า ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นซอยรมณีย์ในปัจจุบัน และในขณะนั้นได้มีศาลเจ้าอยู่แห่งหนึ่งตั้งอยู่ จึงได้มีการนำพระเตี๋ยนฮู้หง่วนโส่ย (เหล่าเอี๋ย) มาบำเพ็ญกุศล และเริ่มดำเนินประเพณีถือศีลกินผักนับแต่นั้นมา จนทำให้ชาวบ้านในละแวกนั้นเกิดความเลื่อมใสศรัทธาจึงได้เข้าร่วมถือศีลกินผักด้วยเป็นจำนวนมาก แต่ต่อมาได้เกิดเหตุการณ์ ไม่คาดฝันขึ้น กล่าวคือ ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นที่ศาลเจ้าโดยไม่มีใครทราบถึงสาเหตุของต้นเพลิงที่แท้จริง ทำให้มีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งตัดสินใจนำพระเตี๋ยนฮู้หง่วยโส่ย (เหล่าเอี๋ย) ไปประดิษฐานที่อ๊ามบางเหนียว (ซึ่งก็คือศาลเจ้าบางเหนียวในปัจจุบัน) และช่วยกันสร้างเป็นศาลเจ้าเรือนไม้ที่มีหลังคามุงจาก ครั้น 4-5 ปีต่อมา ได้เกิดเพลิงไหม้ซ้ำสองขึ้นอีก ชาวบ้านจึงนำพระเตี๋ยนฮู้หง่วนโส่ย (เหล่าเอี๊ย) ไปประดิษฐานในบริเวณตรงกันข้ามกับสถานที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ ซึ่งชาวบ้านบางเหนียวก็ยังคงศรัทธาอย่างเหนียวแน่น จึงร่วมกันทำบุญบำเพ็ญกุศล และถือศีลกินผักทุกปี เมื่อมีผู้คนแวะเวียนกันมาที่ศาลเจ้าแห่งนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้พื้นที่ภายในเกิดความคับแคบ ในที่สุดคณะที่นำโดยขุนเลิศภาตารักษ์จึงได้ร่วมกันในการปรับปรุงเพื่อขยับขยายศาลเจ้าขึ้นมาใหม่ ให้เป็นอาคารคอนกรีตขนาดใหญ่เพียงพอต่อการรองรับผู้แวะเวียนเข้ามาเคารพสักการะศาลเจ้าแห่งนี้ได้
ที่ตั้ง :
บ้านบางเหนียว ถนนภูเก็ต ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมืองฯ จังหวัดภูเก็ต