Z1MPLEX Mixology Laboratory

Z1MPLEX Mixology Laboratory-1

เอกภพคู่ขนาน / ฮันนิบาล เล็คเตอร์ / แมงกะพรุนแห่งปาเลา ชื่อเหล่านี้ดูไม่น่าจะมีอะไรเกี่ยวข้องกัน แต่มันเชื่อมโยงกันได้ด้วยจินตนาการ และทั้งสามชื่อนี้คือส่วนหนึ่งของผลงานทางวิทยาศาสตร์จากห้องแล็บเครื่องดื่มสุดล้ำ Z1MPLEX Mixology Laboratory ที่จะพาคุณดื่มแล้วดิ่งไปในสีสันวูบวาบที่ตามองเห็นและมองไม่เห็น สุดแต่จินตนาการของ Mixologist ทั้งสามของร้าน ทอม แนน และ ชัช จะพาคุณไป

ความอัศจรรย์ใจพาเรามาที่นี่เพื่อทำความรู้จักกับ Z1MPLEX คุณทอม เจ้าของผู้ปลุกชีวิตให้ Z1MPLEX เล่าเรื่องราวอันเป็นที่มาของเครื่องดื่มในแก้วใสใบเล็กที่อัดแน่นไปด้วยพลังแห่งจินตนาการ “ผมเป็นคนภูเก็ต เรียนมาด้านโฆษณา ตั้งแต่ยังเรียนไม่จบก็ไปทำงานเป็นครีเอทีฟอยู่ในบริษัทโฆษณา เป็น Copywriter อยู่ประมาณ 10 ปี ทั้ง Ogilvy และ Young & Rubicam ระหว่างที่ทำงานเป็นครีเอทีฟก็เป็นดีเจเปิดเพลงตามคลับด้วย เป็นงานอดิเรกและเป็นอาชีพเสริม ตั้งแต่สมัยเรียนผมตั้งเป้าหมายในการทำงานไว้ที่รางวัลสำหรับงานครีเอทีฟซึ่งในวงการโฆษณาสูงสุดคือรางวัล Cannes Lions จนกระทั่งในที่สุดผมทำงานได้รางวัล Gold Cannes Lions ความรู้สึกคือเหมือนได้เหรียญทองโอลิมปิกแล้ว ผมเคยอยากทำงานครีเอทีฟเพราะว่ามันเป็นความท้าทาย แต่ ณ จุดหนึ่งงานโฆษณาเริ่มไม่สนุกสำหรับเรา มันเริ่มเป็นโจทย์ที่เราไม่อยากทำ พอได้ในจุดสูงสุดที่เราต้องการแล้วผมก็ลาออก คิดว่าอยากกลับมาภูเก็ต ตั้งใจว่ายังไงก็มีรางวัลติดตัวมาแล้ว เรามาเปิดเอเจนซี่โฆษณาเล็กๆ ที่ภูเก็ตดีไหม ผมกลับมาภูเก็ตเมื่อประมาณ 6 ปีที่แล้ว”

แต่เมื่อกลับมาภูเก็ต สิ่งที่เป็นไม่ตรงกับสิ่งที่คิด คุณทอมจึงเบนเข็มจากงานโฆษณามาทำแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเอง และเปิดร้านเล็กๆ ใช้ชื่อว่า Z1MPLEX “ชื่อ Z1MPLEX มันเริ่มมาจากตรงนั้นแหละครับ จากแบรนด์เสื้อผ้าของผมเอง ซึ่งตอนเปิดร้านก็ยอมรับเลยว่าไม่มีลูกค้า แต่เรามี turn table อยู่อันนึง เวลาเปิดร้านผมก็เปิดเพลงไปเรื่อย ก็เริ่มมีเพื่อนๆ ดีเจในภูเก็ตมานั่งคุย นั่งฟังเพลงกัน เริ่มมีปาร์ตี้ทุกวันหยุด ผมก็ทำใบปลิวทำโปสเตอร์ เพื่อโปรโมทปาร์ตี้ของร้าน เปลี่ยนคอนเซปต์ทุกอาทิตย์ ผมทำแบบนั้นอยู่ 3 ปี จนมีคลับแห่งหนึ่งที่ป่าตองหากราฟิกดีไซเนอร์ เพื่อนแนะนำมาผมก็ส่งพอร์ตไป ปรากฏว่าผมได้งานนั้น บวกกับงานดีเจเปิดเพลงตามคลับในโรงแรม ก็เลยปิด Z1MPLEX ที่แรกตรงนั้นไป”

“ทำงานกราฟิกอยู่สักพัก ก็พบว่ามีหลายอย่างในชีวิตที่มันขาดหายไป คือเพลงแบบที่เราชอบ คนแบบที่เราชอบ บรรยากาศแบบที่เราชอบ มันหายไปจากชีวิตเราเลย ก็เลยลองหาธุรกิจใหม่ เรามีแบรนด์ของเราอยู่แล้ว พอดีช่วงนั้นมีโอกาสได้มาเจอตึกนี้ ก็เลยคิดที่จะกลับมาทำ Z1MPLEX อีกครั้ง ผมกลับมาทำร้านนี้อย่างที่ผมอยากทำ คือเป็นคอนเซปต์สโตร์ ผมเชื่อว่าจะมีเด็กรุ่นใหม่ที่สร้างโพรดักท์ของตัวเองแต่ไม่มีหน้าร้าน ผมอยากให้มีโพรดักท์แบบนี้มารวมอยู่ด้วยกัน ฝันไว้ดีแต่ไม่มีบุคลากรที่จะทำให้ สุดท้ายก็เป็นโพรดักท์ของเราเองส่วนหนึ่ง มีบาร์ มีอันเดอร์กราวด์มิวสิค ผมใช้เงินเก็บเพื่อซ่อมตึกนี้ เปลี่ยนมันเป็นร้านและบริษัทเพื่อทำงานครีเอทีฟอย่างที่ตั้งใจไว้ ในขณะที่ร้านก็มีคนมาเยอะนะ แต่ส่วนใหญ่เขาดื่มจากที่อื่นมาแล้ว เขามาแค่ปาร์ตี้แต่ไม่จ่ายอะไรเลย ในขณะที่ภาระค่าเช่าเราก็มี เงินที่ลงไปกับการซ่อมตึกก็มี ผมคิดว่าทำแบบนี้ต่อไปมันไม่ใช่แล้ว งานประจำที่ทำอยู่ก็กำลังจะเลิกจ้าง ตอนนั้นคิดว่าถ้าเราทำเครื่องดื่มค็อกเทลกำไรอาจจะดีกว่า ลองดูแล้วกัน แต่ว่าถ้าเราจะทำเครื่องดื่ม เราจะทำโมจิโต้เหรอ เฮ้ย เราเป็นครีเอทีฟนะ เราเคยได้ Cannes นะ เราได้สิ่งนี้มาเพราะเราเชื่อมั่นว่าเราจะทำอะไรที่ไม่เหมือนคนอื่น อีโก้กับความยากจนเป็นแรงขับ เมื่อมันถึงจุดหนึ่ง อีโก้ถ้าใช้ให้ถูกวิธีมันก็พาเราไปไกล พอเราคิดว่าเราจะไม่ทำตามคนอื่น ผมก็เริ่มด้วยการเอาว็อดก้ามาลอง ลองไปเรื่อยๆ จนมีรุ่นน้องคนหนึ่งเอาแก้วทรงหัวกะโหลกมาให้ แนนซึ่งอยู่กับผมมาตลอด เขาบอกว่า ‘ทอม เธอทำสมองให้อยู่ในแก้วนี้ได้ไม๊’ ทีแรกก็คิดว่าแนนจะบ้าเหรอ แต่ก็ อ่ะ ลองดู ทำออกมาทีแรก เละ ก็ลองไปเรื่อย จนโอเคเข้าใจแล้ว มันต้องมีการผสมในอัตราส่วนที่เหมาะสม จนกระทั่งได้ Hannibal แก้วแรกออกมา ซึ่งตั้งชื่อจาก ฮันนิบาล เล็คเตอร์ ฆาตกรอัจฉริยะที่กินสมองมนุษย์ ผมเป็น Copywriter มาก่อน เรื่องคิดชื่อนี่ไม่ต้องห่วง”

“ระหว่างทางก่อนที่จะมี Hannibal ซึ่งผมลองทำทีละเป็น 20 แก้วให้เพื่อนช่วยชิม มันมีครั้งหนึ่งเราเทลงไปมันใกล้เคียงแมงกะพรุนมากเลย ก็ลองย้อนกลับไปทำ ลองแก้วทรงใหม่ ออกมาเป็นแมงกะพรุน ลองใส่สีฟ้าลงไป เป็นน้ำทะเล ก็เลยได้เป็น Jellyfish มาอีก 1 แก้ว จากการทดลอง 2 แก้วนี้ เราก็ทำไปเรื่อยๆ ต่อยอดไปเรื่อยๆ ลูกค้าชอบ เริ่มพาเพื่อนมาดู ลูกค้าเริ่มถามหาอะไรที่มากกว่าสมองกับแมงกะพรุน ผมก็ลองไปเรื่อยๆ ออกมาเป็นทรงอะไร วูบแรกที่เห็นนึกถึงอะไร ใส่คำสุดยอดสวยหรูลงไป ลูกค้าซื้อหมด จนมีลูกค้าคนหนึ่ง ซึ่งผมถือว่าเขาเป็นผู้มีพระคุณนะ เขาบอกว่า ‘ทอม คุณรู้ไหม สิ่งที่คุณทำทั้งหมดคุณเล่นกับ density ใช่ไหม’ เฮ้ย อ๋อ มันคือความหนาแน่นนี่เอง ที่ทำให้รูปทรงมันแตกต่างกันได้ แค่นั้นเลยครับ เรายิ่งดิ่งกับมันเข้าไป เริ่มคลั่งขึ้นเรื่อยๆ ช่วงเวลาแค่ 3 เดือนแรกที่เริ่มเปลี่ยนมาทำเครื่องดื่ม ลูกค้าก็เริ่มมามากขึ้น เราก็เริ่มมีกำลังใจมากขึ้น มีคนเริ่มมาดูงานเรามากขึ้น มันเริ่มสนุกขึ้น”

“จนกระทั่งมีลูกค้าคนหนึ่งเป็นหุ้นส่วนบริษัทเครื่องดื่มมาชวนให้ไปร่วมการแข่งขัน Bols Around the World ซึ่งพูดง่ายๆ ก็เป็นการแข่งขันบาร์เทนเดอร์ทั่วโลกแบบออนไลน์ ซึ่งจะมีโจทย์อาทิตย์ละ 1 โจทย์ 12 อาทิตย์ เราจะต้องทำการบ้าน 12 อย่างส่งไป เราก็ลองสมัคร ซึ่งประเทศไทยสมัครประมาณ 20 คน ผู้แข่งขันทั้งหมด 6,000 กว่าคนจากทั่วโลก กติกาคือให้ผู้แข่งขันโหวตกันเอง ช่วงนั้นผมคือจากคนที่ไม่รู้อะไรเลย ต้องไปแข่งกับบาร์เทนเดอร์ระดับโลก เป็นมืออาชีพกันมา bar knowledge คืออะไร quality control อะไรต่างๆ ไม่รู้เลย แต่ผมมั่นใจว่าจาก 6,000 คน การเลเยอร์ของผมคือบ้าคลั่งที่สุด แต่ละอาทิตย์ผมแค่ลองทำให้ลูกค้า 1 คน แล้ววันต่อมาผมก็เอาเมนูนั้นไปส่งเลย บางเมนูในร้านตอนนี้มาจากการแข่งขันครั้งนั้น ช่วง 3 เดือนในการแข่งขันเป็นช่วงที่ผมได้เห็นว่าจริงๆ แล้ว บาร์เทนเดอร์เขาทำอะไรกัน ซึ่งผมไม่ทำ การแข่งขันครั้งนั้นผมได้อันดับที่ 1 ของประเทศ อันดับที่ 49 ของโลก และทำให้ผมได้รู้จักกับ ชัช ซึ่งเขาได้อันดับ 2 ของประเทศ อันดับที่สองร้อยกว่าของโลก และเขาก็มาร่วมงานกับผม ณ ตอนนี้”

ช่วงปีแรกของ Z1MPLEX เหมือนคุณทอมค่อยๆ ทลายกำแพงของความเป็นไปไม่ได้ให้พังลงไปเรื่อยๆ เครื่องดื่มแต่ละแก้วค่อยๆ ถูกสร้างขึ้นจากการทดลอง เกิดเป็นผลงานวิทยาศาสตร์ที่ให้ความงามทางศิลปะ “สิ่งที่เราทำเราสร้างมันขึ้นมา เรากล้าเคลมว่าไม่มีที่ไหน ไม่ว่าจะในภูเก็ต หรือในประเทศไทย ผมคิดว่าเราน่าจะเป็นหนึ่งเดียวจริงๆ เราค่อยๆ สร้างได้หลายรูปทรง เราแบ่งชั้นเครื่องดื่มได้ เราสร้างอะไรต่างๆ ตามมาอีกมากมาย ซึ่งตอนนี้ร้านเรามีให้เลือกหลักๆ ประมาณ 20 เมนู ยังมีในสมองผมอีกกว่า 300 เมนู เราคิดว่ามันจะไปได้อีกไกลแค่ไหนเชียว แต่ทุกครั้งที่เราคิดว่าสิ่งนี้ทำได้ไหม แล้วใครๆ บอกว่าทำไม่ได้ เราทำ และเราทำได้ กำแพงแรกมันสูงที่สุด หลังจากนั้นกำแพงมันก็เริ่มต่ำลงมาเรื่อยๆ passion ความประณีต ผมเชื่อว่าไม่มีใครคลั่งเท่าเรา เราเริ่มเรียกที่นี่ว่าเป็นห้องแล็บ เพราะสิ่งที่เราทำมันคือการทดลอง ก่อนหน้านี้เราไม่มีเมนู ไม่มีแท็บเลตให้ลูกค้าดู ถ้าคุณเชื่อใจผม ผมจะทำสิ่งนั้นให้คุณ หลายคนมองว่าที่นี่คือบาร์ค็อกเทล แต่ผมว่าที่นี่ใกล้เคียงกับซูชิบาร์มากกว่า มันกึ่งๆ โอมาคาเสะ คือ ไม่ว่าคุณจะเป็นอะไรยังไง ปวดท้องมา โอเค ผมทำเครื่องดื่มที่มียาธาตุน้ำขาวตรากระต่ายบินให้ ปวดหัวมา ผมจัดแก้วที่มีตากีล่าให้ เพราะมันจะช่วยให้เลือดหมุนเวียนดีขึ้น เราให้นิยามตัวเองเป็นห้องแล็บทางวิทยาศาสตร์ บางทีลูกค้ามาเราก็ให้เขาตั้งโจทย์ เพียงแต่โจทย์นี้ผมไม่ได้ต้องการรู้ว่าคุณชอบดื่มอะไรเป็นพิเศษ หรือชอบรสชาติแบบไหน แต่ช่วยบรีฟผมหน่อย อะไรก็ได้ที่คุณกับผมจะคอนเนคท์กันได้ เช่น เคยมีลูกค้ามาบอกว่า พี่ผมอยากจะได้เพลง High and dry ของ Radiohead ผมทำเครื่องดื่มให้เขา แต่ผมบอกว่า ผมไม่ได้ทำเนื้อเพลงนะ ผมไม่ได้ทำความหมายเพลง ผมทำอารมณ์ของ Tom Yorke ตอนที่ร้องเพลงนี้ พอเขาดื่มเขาออกไปเต้นกลางฝนเลย ฉะนั้นรูปแบบการทำงานคือเราวาง positioning ตัวเองว่าเราคือนักวิทยาศาสตร์ เราเป็นศิลปิน เราสร้างงานอาร์ท ที่สำคัญที่สุด เราเป็นนักจิตวิทยา ลูกค้าหลายคนมาที่นี่เพื่อคุยกับเรา”


สำหรับวันนี้ Z1MPLEX กลายเป็นความแปลกใหม่ที่ใครมาภูเก็ตก็อยากมาเห็นและลองสัมผัสรสชาติด้วยตัวเอง ส่วนสำคัญมาจากโซเชียลมีเดีย ซึ่งคุณทอมบอกว่า ไม่เคยเสียเงินสักบาทเลยกับการทำให้คนรู้จัก Z1MPLEX มากขนาดนี้ “โลโก้ แบรนดิ้งมาร์เก็ตติ้ง มันถูกอัดเข้าไปในแก้วแล้ว มันถูกตีทะเบียนแล้วว่าสิ่งนี้คือ Z1MPLEX ไม่ว่าคนที่มาจะโด่งดังแค่ไหนก็ตาม ผมได้ฟิล์มมีเดีย แล้วผมก็เชื่อว่านี่คือสิ่งเดียวที่ Z1MPLEX ได้เปรียบ คือเราไม่ต้องเสียค่ามีเดียเลย ทั้งอินสตาแกรม เฟซบุ๊ค เขาถ่ายสิ่งที่เราทำ แชร์ เปิดพับบลิก ยอดวิวเป็นหลักล้านทำให้คนรู้จักเรา เราเชื่อว่า passion ที่เราใส่กับมัน creativity ที่เราใส่กับมัน ผลงานที่ออกมา พาทุกคนให้มาที่นี่ มีลูกค้าหลายรายบอกผมว่าเขามาภูเก็ตเพื่อสิ่งนี้”
สำหรับคนที่ไม่เคยมา Z1MPLEX คุณอาจจะสงสัยว่ามาที่นี่แล้วคุณจะได้อะไร คุณอาจจะนึกภาพไม่ออก เพราะมันคือสิ่งใหม่ ไม่ว่าคุณจะเคยท่องราตรีมากี่แบบก็ตาม “มันคือประสบการณ์ที่คุณไม่มีทางได้ที่อื่นแน่ๆ เราเคยบอกว่าเราคือ Master of density เราคือพ่อมดที่ร่ายมนตร์แห่งความหนาแน่น แต่หลังจากผมปิดเพื่อปรับปรุงร้านไปหลายเดือน การกลับมาครั้งนี้ เราจะบอกทุกคนที่เข้ามาว่า Welcome to the year 2077 ยินดีต้อนรับสู่ปี 2077 ที่นี่คือบาร์ในอีก 50 ปีข้างหน้า เครื่องดื่มตรงหน้าคุณคือเครื่องดื่มใน 50 ปีข้างหน้า เมื่อไหร่ที่คุณก้าวเข้ามาในนี้ คุณไม่ต้องถามเหตุผลอะไรทั้งนั้น ที่นี่คือยานพาหนะเรากำลังพาคุณออกไปนอกโลก ไปสู่อวกาศ”
ถ้าถามว่าแล้วอนาคตของ Z1MPLEX ล่ะจะเป็นอย่างไรต่อไป คุณทอมตอบว่า “ผมอยากทำให้ Z1MPLEX โตแล้วอยู่ได้ด้วยตัวเอง เพื่อที่ผมจะได้ไปทำอะไรที่ผมอยากทำอีกเยอะแยะ เช่น ทำรองเท้า เขียนนิยาย Sci-fi สิ่งที่มองคืออาจจะมีผลิตภัณฑ์ของ Z1MPLEX เป็น Starter kit ที่คุณซื้อไปแล้วไปทำ Jellyfish ที่บ้านเองได้เลย ตอนนี้เรามีพาร์ทเนอร์ที่คุยกันอยู่ Z1MPLEX อาจจะมีสาขา 2 ที่อังกฤษ ผมอาจจะทำแฟรนไชส์ Z1MPLEX กระจายทั่วอังกฤษ แต่ไม่มีสาขาในไทย มันเป็นความสะใจที่ผมจะได้พูดว่า Z1MPLEX มีสาขาเดียวในไทยที่ภูเก็ต ผมอยากให้ภูเก็ตเป็นเมืองสำคัญเหมือนเมืองอื่นๆ ทั่วโลก ผมอยากให้นักท่องเที่ยวที่มาภูเก็ตใช้ชีวิตอยู่ได้ 5 วันโดยที่กิจกรรมไม่ซ้ำกันเลย มันน่าจะดี มันน่าจะทำให้เราไปได้ไกลกว่านี้ ผมอยากบอกคนรุ่นใหม่ที่กำลังคิดจะทำธุรกิจในภูเก็ต ผมไม่อยากให้ทุกคนคิดบนพื้นฐานที่ว่า กรุงเทพฯ มีอะไรเราจะทำแบบนั้นที่ภูเก็ต มันไม่ทำให้อะไรดีขึ้น ผมเชื่อว่าเราทำอะไรก็ได้ ไม่เห็นจะต้องมีที่กรุงเทพฯ เลย ดีซะอีกที่กรุงเทพฯ ไม่มี ทำไม Z1MPLEX ไม่ไปเปิดกรุงเทพฯ ไม่จำเป็นเลยก็ในเมื่อหลักๆ ลูกค้า 70% ของผมคือคนกรุงเทพฯ ผมใช้โอกาสของภูเก็ตทำให้มันดีขึ้น ทำให้มันไปไกลขึ้น ให้มันเป็นถนนที่มีแต่เราวิ่ง เราจะวิ่งเร็วก็ได้ ช้าก็ได้ จะอัดให้ยางแตก มันก็เป็นเรื่องของเรา ไม่ต้องต่อคิวคนอื่น ฉะนั้นสิ่งที่เราทำที่นี่ เราทำสิ่งที่ไม่มีที่อื่น คนก็จะเข้ามาหาเราเอง”


https://www.facebook.com/Z1MPLEX/

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.