คฤหาสน์โบราณสีขาวสไตล์จีนผสมยุโรป ซึ่งชาวภูเก็ตเรียกกันว่า อั่งหม่อหลาว ที่ตั้งอยู่อย่างสงบ ณ สี่แยกที่ว่าการอำเภอเมืองภูเก็ต ถนนเยาวราช มาเป็นเวลานาน ใครขับรถผ่านไปมาเส้นทางนั้นในช่วงนี้ก็คงต้องสะดุดตากับความมีชีวิตชีวาของคฤหาสน์หลังนี้ ที่ถูกบูรณะซ่อมแซมให้เฉิดฉายอีกครั้ง และยังเปิดประตูต้อนรับผู้มาเยือน ในนามของร้านอาหารตำรับไทยขึ้นชื่อ “เขียวไข่กา”
ในอดีต อั่งหม่อหลาวหลังนี้เป็นคฤหาสน์ของคหบดีนายเหมืองภูเก็ต ปัจจุบันมีอายุราว 85 ปี *สร้างโดยฝีมือช่างชาวปีนัง เป็นคฤหาสน์ 2 ชั้น สร้างแบบคอนกรีตเสริมเหล็ก ชั้นล่างเป็นห้องโถง ส่วนรับแขก และห้องนอน ชั้นบนเป็นห้องนอนมีระเบียง ที่เหนือประตูบ้านชั้นล่างและหน้าต่างระเบียงหน้าบ้านชั้นบน มีช่องแสงไม้ฉลุโค้งครึ่งวงกลม มีรูปแพะ และรูปไก่ ซึ่งเป็นรูปนักษัตรประจำปีเกิดของเจ้าของบ้าน ด้านหลังบ้านมีทางเดินเชื่อมไปเรือนหลังบ้าน ชั้นบนมี ปั๊นแป๋ หรือระเบียงใหญ่ รอบๆ บ้านเป็นสนามหญ้า มีต้นไม้น้อยใหญ่ให้ร่มเงาร่มรื่น ทุกๆ รายละเอียดภายในบ้าน ทั้งลวดลายปูนปั้นอันอ่อนช้อย กรอบประตูหน้าต่าง พื้นกระเบื้อง และพื้นไม้ แม้ผ่านกาลเวลาเนิ่นนานแต่กลิ่นอายของความหรูหรายังคงแทรกซึมอยู่ในทุกอณูของตัวบ้าน นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้บริหารของร้านเขียวไข่กา เกิดแรงบันดาลใจที่จะเปิดร้านอาหารภายในอั่งหม่อหลาวแห่งนี้ โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะอนุรักษ์บ้านหลังนี้ไว้ให้คงความสวยสง่างามอย่างที่เคยเป็น ตามเจตนารมณ์ดั้งเดิมของท่านเจ้าของบ้าน
ร้านเขียวไข่กานั้นเป็นที่รู้จักในหมู่นักชิมอยู่แล้ว ว่าขึ้นชื่อเรื่องอาหารไทยโดยเฉพาะอาหารไทยโบราณที่หารับประทานยาก ร้านเขียวไข่กาเปิดบริการมาแล้ว 3 สาขา คือ สาขานาคนิวาส ลาดพร้าว, สาขาอโศก, สาขาเชียงใหม่ และได้เปิดบริการที่ภูเก็ตเป็นสาขาที่ 4 ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยยังคงแนวคิดหลักของร้านคือนอกจากให้บริการอาหารไทยโบราณตำรับชาววังแล้ว ยังมีเมนูอาหารพื้นถิ่นให้บริการด้วย ร้านเขียวไข่กาสาขาภูเก็ตจึงมีทั้งอาหารไทย และอาหารพื้นเมืองภูเก็ตที่คัดสรรเมนูยอดนิยมมาปรุงโดยพยายามรักษารสชาติดั้งเดิมอันเป็นเสน่ห์เอาไว้
คงเป็นความรู้สึกที่พิเศษไม่น้อย หากได้นั่งรับประทานอาหารไทยสูตรชาววังในอั่งหม่อหลาวของคหบดีนายเหมืองอันหรูหรา เมนูที่อยากแนะนำถ้ามีโอกาสได้มาเยือนที่นี่ ได้แก่ แกงเป็ดย่างกับผลไม้ ซึ่งที่นี่จะใส่ผลไม้หลายชนิด ทำให้แกงเป็ดเข้มข้นหอมหวาน เนื้อเป็ดนุ่มกำลังดี เมนูนี้ยังเป็นเมนูแนะนำในมิชลินไกด์อีกด้วย, แกงรัญจวน ตำรับชาววังชื่อไพเราะเพราะมีที่มาจากกลิ่นที่หอมฟุ้งรัญจวนไปทั้งวัง, ปลาช่อนนาจำศีล ปลาช่อนนาทอดกรอบทั้งตัว เคียงกับผัดมะเขือ จิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด, ไข่พะโล้โบราณ เมนูที่ดูง่ายแต่หากได้ลิ้มรสแล้วจะรู้ว่าไข่พะโล้ของที่นี่กลิ่นหอมและรสกลมกล่อมเป็นพิเศษ, น้ำพริกไข่ปู ที่ได้รสความมันของไข่ปูแบบเต็มๆ คำ, หมูทอดมะแขว่น หมูทอดสูตรพิเศษคลุกเคล้าด้วยเครื่องเทศทางภาคเหนือให้รสเผ็ดชา อาหารพื้นเมืองภูเก็ตก็มีทั้ง หมูฮ้อง, ไข่เจียวปู, น้ำชุบหยำโจร, แกงปูใบชะพลู ส่วนของว่างแบบไทยโบราณที่หารับประทานยากอื่นๆ ก็เช่น ปลาแห้งแตงโม ม้าห้อ ของหวานก็ต้องไม่พลาดลองชิม ส้มฉุน จากกาพย์เห่เรือชมเครื่องคาวหวาน พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 2 เป็นลิ้นจี่ลอยแก้ว โรยด้วยมะม่วงเปรี้ยวและขิงซอยละเอียดกับหอมเจียว รับประทานแล้วชื่นใจรสชาติเข้ากันได้อย่างไม่น่าเชื่อ นอกจากนี้ยังมี น้ำมะม่วงน้ำดอกไม้ปั่น และเครื่องดื่มไทยๆ อื่นๆ ช่วยดับร้อนได้เป็นอย่างดี
นอกจากจะเลือกมุมรับประทานอาหารภายในบ้านทั้งชั้นล่างและชั้นบน ซึ่งแต่ละมุม แต่ละห้อง ก็มีบรรยากาศและมองเห็นวิวที่ต่างกันแล้ว ทางร้านกำลังตกแต่งระเบียงหลังบ้านชั้นบนเป็นเรือนกระจกที่มีความเป็นส่วนตัว สามารถจัดปาร์ตี้สังสรรค์เล็กๆ หรือดินเนอร์ส่วนตัวได้ ซึ่งจะพร้อมให้บริการในอีกไม่นาน ร้านเขียวไข่กา สาขาภูเก็ต เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00 – 22.00 น. สำรองที่นั่งโทร 076 609 266
